แน่นอนว่าสาว ๆ ทุกคนก็ต้องอยากสวยกันอยู่แล้ว หลายคนจึงพยายามเลือกเฟ้นทรงจมูกที่ดูสวยที่สุดในสายตาตัวเองกันทั้งนั้น แต่ยังมีอีกหลายคนที่อาจลืมนึกหรือมองข้ามการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ต้องมานั่งแก้จมูกใหม่ซะแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมจมูกกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง ยุ่งยากไหม ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านกันเลยค่ะ
6 ทรงจมูกแนะนำ เลือกทรงจมูกให้เหมาะกับโครงหน้า
แม้ว่าการเสริมจมูกจะสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่ก็คงไม่อยากมีใครแก้จมูกซ้ำสองสามรอบกันอย่างแน่นอน ดังนั้นการเลือกทรงจมูกที่ทั้งสวยและเข้ากับโครงหน้าของเรามากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับทรงจมูกยอดนิยมมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
1. ทรง Lunar Graft
เป็นทรงจมูกที่มีลักษณะโค้งตั้งแต่สันจมูกลงมาถึงปลายจมูก คล้ายหยดน้ำ เหมาะกับสาว ๆ เอเชียเป็นอย่างยิ่ง รูปทรงจะจมูกจะมีความสวยงาม ละมุนสวยเป็นธรรมชาติที่สุด คล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยวปลายโค้งมนไม่แหลมพุ่งจนเกินไป ปรับสันจมูกให้ดูสโลป และมีท้องจมูก เพิ่มความความหวานให้ใบหน้าดูละมุน ออกมาเป็น “ทรงลูน่า” ที่ตอบโจทย์จมูกของสาวเอเชียโดยเฉพาะ และเทคนิคนี้เป็นเทคนิคฉพาะที่ NSC Clinic เท่านั้น
2. ทรงหยดน้ำ
เป็นทรงที่ทำให้จมูกยาวขึ้น แต่สันไม่ได้สูงมากจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่มีสันจมูกยาว มีเนื้อจมูกเยอะ แต่หากเป็นผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย คุณหมออาจแนะนำให้ใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาใช่้ในการเสริมปลายด้วย แล้วแต่กรณีค่ะ
3. ทรงปลายพุ่ง
เป็นอีกหนึ่งทรงยอดนิยมที่มีลักษณะปลายพุ่งและเรียว ไม่เป็นแท่งมากเกินไป ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน จมูกโด่งรับกับใบหน้า หากมองด้านข้างก็ดูมีมิติ เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้น ไม่มีดั้ง หรือมีฮัมพ์สูง
4. ทรงปลายเชิด
เป็นทรงจมูกที่ตกแต่งปลายที่งุ้มลงมาให้ดูเชิดขึ้น ดูเป็นทรงจมูกสายฝอที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูกงุ้มลงมาเยอะ
5. ทรงเกาหลี
เป็นทรงจมูกที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ดูไม่โด่งจนเกินไป สันจมูกมีความสโลป ปลายงุ้มเล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่มีจมูกบาง เนื้อจมูกน้อย หรือไม่มีดั้งเลย
6. ทรงตั๊กแตน
เป็นทรงจมูกที่มีลักษณะโค้งตั้งแต่สันจมูกลงมาถึงปลายจมูก คล้ายหยดน้ำ เหมาะกับสาว ๆ เอเชียเป็นอย่างยิ่ง
การเตรียมตัวหลังจากการตัดสินใจเลอกทรงจมูก
1. เลือกคลินิกและศัลยแพทย์ที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้
จริงอยู่ที่การเลือกทรงจมูกเป็นเรื่องสำคัญ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้่กันนั่นก็คือการเลือกคลินิกและศัลยแพทย์ให้ดี เพราะหากเราหลับหูหลับตาเลือกคลินิกหรือศัลยแพทย์ที่ไม่น่าเชื่อถือเพียงเพราะว่าอยากเสริมจมูกในราคาถูกแล้วล่ะก็ อาจเสี่ยงต่อภาวะจมูกทะลุจากการที่แพทย์ท่านนั้นใช้ซิลิโคนไม่เหมาะสมกับจมูกของเรา หรือเสี่ยงต่อการเสริมจมูกกับหมอกระเป๋าซึ่งไม่ใช่แพทย์ที่ทำเกี่ยวกับด้านความงามโดยตรง อาจเป็นเพียงผู้ช่วยแพทย์หรือแพทย์จากสาขาวิชาชีพอื่นมาเสริมให้ และอาจนำมาสู่ปัญหาหลังเสริมจมูกได้ในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
แม้ว่าคุณจะเจอคลินิกและศัลยแพทย์ที่น่าเชื่อถือแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้อย่าลืมสอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจเสริมจมูกกับศัลยแพทย์ท่านนั้นด้วยนะคะ เพราะหากเราเลือกคุณหมอที่อธิบายให้เราฟังแบบงง ๆ ไม่สามารถทำให้เราเข้าใจได้ หรือให้ข้อมูลแบบไม่เต็มใจ น้ำเสียงหรือคำพูดดูเหว่ียง ๆ แบบนี้ก็อาจเสี่ยงต่อการสื่อสารที่ผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังการรักษาได้ง่าย ๆ เป็นผลทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงใจเราก็เป็นได้ค่ะ
2. เข้าใจวิธีดูแลหลังเสริมจมูก
สำหรับวิธีการดูแลหลังเสริมจมูกนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประคบร้อนและเย็นให่้ถูกช่วงเวลา, รู้วิธีทำความสะอาดแผลที่ถูกต้อง พยายามไม่ให้น้ำโดนแผล หากน้ำโดนแผลให้รีบซับผ้าให้แห้งทันทีเพื่อป้องกันแผลอับชื้น, ทานยาตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ซื้อยามาทานเอง, นอนหมอนสูง 2 ชั้นอย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง และใช้หมอนรองคอประมาณ 45 องศา ทุกครั้งก่อนนอนเพื่อป้องกันไม่ให้เผลอนอนตะแครง, เลือกรับประทานอาหารบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและกระตุ้นการสร้างผิวหนังให้แข็งแรง, อาหารที่มีไขมันดีที่ช่วยสลายโปรตีนมาใช้เป็นพลังงานสำหรับซ่อมแซมเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยให้แผลสมานตัวไว, งดสัมผัสหรือทำกิจกรรมบางประเภทหลังเสริมจมูกอย่างน้อย 14 วัน ทั้งการล้วง แคะ แกะ เกาบริเวณแผลหลังเสริมจมูก รวมถึงการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะกว่าปกติ เช่น เล่นกีฬา หรือการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้หากคนไข้ดูแลแผลหลังเสริมจมูกไม่ดี ก็อาจทำให้ทรงจมูกเคลื่อนตัวผิดตำแหน่งหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดและนำมาสู่การเสียชีวิตในที่สุด
3. เตรียมใจในการเสริมจมูก
ขึ้นชื่อว่าเสริมจมูกแล้ว มันคือการผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปยังจมูก การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายย่อมสร้างความเจ็บตามมาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมรับมือกับความเจ็บปวด หรือไม่มีเวลาพักฟื้นได้อย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ ทางเราก็ยังไม่แนะนำให้เสริมจมูกค่ะ แม้ว่าความเจ็บปวดจะค่อย ๆ ทุเลาภายใน 1 – 2 วัน แต่หากคุณละเลยการดูแลแผล ยังใช้ชีวิตตามปกติ ยังไปปาร์ตี้ดื่มสังสรรค์ เข้าสปา นวดหน้า จนจมูกได่้รับการกระทบกระเทือนบ่อย ๆ ความเจ็บปวดก็อาจกำเริบและลากยาวเป็นสัปดาห์เลยก็ว่าได้ แถมยังอาจเสี่ยงต่อจมูกทะลุง่ายกว่าผู้ที่ดูแลหลังเสริมจมูกอีกด้วย นอกจากนี้หากคุณดูแลจมูกไม่มากพอจนทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง ก็ต้องมานั่งเสียเงินเสียเวลามาแก้จมูกซ้ำรอบสอง และกว่าจะแก้จมูกใหม่ได้ก็ต้องรอให้เนื้อจมูกพักฟื้นเต็มที่ก่อนอย่างน้อย 6 เดือนค่ะ บอกเลยว่าต้องพร้อมในทุก ๆ ด้านจริง ๆ ก่อนจะดีกว่าค่ะ
สุดท้ายนี้หากคุณอ่านจบแล้วรู้สึกว่าตัวเองพร้อมในทุก ๆ ด้านแล่้วล่ะก็ ทางเราก็ขอแนะนำให้คุณปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาได้เลยค่ะ เพราะการเสริมจมูกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สาว ๆ หลายคนต้องการกันอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะได้ทรงจมูกที่สวย เหมาะกับใบหน้าของคุณมากที่สุดแล้ว ยังช่วยเสริมออร่า เพิ่มความมั่นใจเวลาพบเจอผู้คนได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
NSC CLINIC ติดอันดับ 1 ใน 10 บทความ “อัปเดต! 2024 ทำจมูกหมอไหนดี? แนะนำ 10 หมอทำจมูกครั้งแรก ให้สวยปัง!” โดย Wongnai
เสริมจมูกแบบโอเพ่น ที่ไหนดี
NSC Clinic เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรที่ให้บริการด้านศัลยกรรมหลากหลายประเภทเรามีทีมแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางและมีทีมแพทย์มากประสบการณ์คอยให้การดูแลทุกท่าน เพราะทางคลินิกอยากให้คนไข้ที่เข้ามารับบริการได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดโดยในการผ่าตัดศัลยกรรมแต่ละหัตถการเรามีการ “ออกแบบเคสต่อเคส” เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเข้ากับรูปหน้าของคนไข้มากที่สุดพร้อมทั้งมีทีมแพทย์ที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำได้ตรงตามความต้องการเพราะเราอยากให้ทุกท่านได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาจนรับการรักษาออกไปค่ะ