ถอดซิลิโคนจมูก อีกหนึ่งวิธีการแก้ปัญหาที่หลาย ๆ คนนึกถึงเมื่อเสริมจมูกมาแล้วไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ หรือบางคนอาจพบปัญหามากกว่านั้นคือเกิดปัญหาที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาปลายทะลุ จมูกอักเสบหลังเสริม จมูกติดเชื้อ ฯลฯ ซึ่งผลกระทบต่าง ๆ ดังกล่าวทำให้ทำให้ผู้ประสบปัญหาจำเป็นต้องนำซิลิโคนจมูกออก เพราะหากปล่อยไว้อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งคำถามสำคัญอีกหนึ่งข้อที่หลาย ๆ คนอยากทราบคือ หลังจากนำซิลิโคนจมูกออกแล้ว สามารถเสริมจมูกต่อได้เลยหรือไม่ หากเสริมต่อได้ทันที ควรเลือกเทคนิคไหนจึงจะไม่เกิดปัญหาซ้ำอีก ในบทความนี้ NSC Clinic มีคำตอบมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนกันค่ะ
“ถอดซิลิโคนจมูก” อันตรายมั้ย ดูแลยังไงให้ปลอดภัยมากที่สุด
จากที่ได้บอกไปว่าการนำซิลิโคนจมูกออกนั้นเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่หลาย ๆ คนนิยม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่ต้องการซิลิโคนไว้ รวมไปถึงปัญหาหลังเสริมจมูกครั้งแรกที่มีอยู่หลายประการทีเดียว ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ทำไมต้องถอดซิลิโคนออกจากจมูก ปัญหาหลังเสริมครั้งแรกที่ต้องเอา ซิลิโคนออกมีอะไรบ้าง?
แม้ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของการถอดซิลิโคนของคนไข้ส่วนใหญ่ จะเป็นการอยากแก้ทรงจมูกจากการเสริมครั้งแรก แต่ก็มีปัญหาจมูกอื่น ๆ ที่รุนแรงกว่าและจำเป็นต้องถอดเอาซิลิโคนจมูกออกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
จมูกติดเชื้อ
เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงทั่วไปที่สามารถพบได้จากการผ่าตัดทุกประเภท รวมถึงการผ่าตัดเสริมจมูกด้วย ลักษณะอาการที่แสดงมักจะร่วมด้วย อาการปวดและบวมแดงบริเวณปลายจมูก, สีผิวหนังบริเวณจมูกเปลี่ยนไป และมีน้ำเหลือง หรือเลือดไหลออกมา ฯลฯ ซึ่งควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ให้เร็วที่สุด
จมูกทะลุ
สาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหานี้คือการที่พยายามดัน ให้โด่งพุ่งด้วยวัสดุเทียมต่าง ๆ จนเกินความตึงของเนื้อที่จะรับได้ จึงทำให้หลาย ๆ เคสเห็นซิลิโคนใสทะลุออกมาที่ปลายจมูกเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำการแก้จมูกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมานั่นเอง
ทรงจมูกมีปัญหา
มักเกิดจากการเลือกใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป หรือเหลาซิลิโคนไม่เข้ากับรูปหน้า ดังนั้นจึงทำให้รูปทรงจมูกไม่เป็นไปตามที่ต้องการ หรือในบางเคสนั้นอาจมีทรงจมูกไม่เป็นธรรมชาติ รูจมูกผิดรูป ปลายจมูกสั้นหรือเชิดจนเกินไป เป็นต้น
พังผืด ซิลิโคนจมูก
ในความเป็นจริงแล้ว “พังผืด” นั้นเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ในร่างกายซึ่งในที่นี้ก็คือซิลิโคนจมูกที่คนไข้อาจเลือกผิดไซซ์ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างจมูกและซิลิโคนทำให้เกิดพังผืดส่วนนี้ขึ้นมา หรืออาจเกิดจากการที่คนไข้สัมผัสบริเวณปลายจมูกบ่อย ๆ ร่างกายจึงสร้างพังผืดขึ้นมานั่นเอง โดยหากปล่อยไว้จนพังผืดมีปริมาณมาก ๆ อาจทำให้จมูกเกิดการเสียรูปได้
ทั้งนี้ นอกจากปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าว ก็ยังมีปัญหาสันจมูกแดงจากการไม่ตะไบฮัมพ์ รวมถึงหนังปลายจมูกบางลงเนื่องจากซิลิโคนจมูกมีขนาดไม่เหมาะกับรูปจมูกของคนไข้ ซึ่งการถอดเอาซิลิโคนออกจะเป็นขั้นตอนแรกก่อนที่จะรักษาปัญหานั้น ๆ ต่อไป
ขั้นตอนการถอดซิลิโคน มีอะไรบ้าง?
หลาย ๆ คนอาจกังวลใจในเรื่องของขั้นตอนการถอดนำเอาซิลิโคนจมูกออกว่าจะมีความซับซ้อนมากหรือไม่ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการนำซิลิโคนจมูกอันเก่าออกนั้นมีไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ไม่ได้มีความยากหรือซับซ้อนอยากที่คิดและยิ่งถ้าหากเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็แทบไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลค่ะ
ซึ่งขั้นตอนของการถอดเอาซิลิโคนจมูกแท่งเก่าออก มีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้…
- ทำการเก็บประวัติต่าง ๆ เช่น การแพ้ยา ถ่ายรูปก่อน-หลังการนำซิลิโคนออก รวมถึงการทำ Consult กับแพทย์เกี่ยวกับแผนการรักษาอย่างละเอียด
- แพทย์ทำการจ่ายยาแก้อักเสบให้กับคนไข้ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนถอดตัวซิลิโคน (**ต้องเป็นยาที่แพทย์จ่ายให้เท่านั้น)
- คนไข้ทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย
- จากนั้นเริ่มเข้าสู่ขั้นตอน แพทย์ทำการฉีดยาชา รอจนยาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการเปิดแผลสั้น ๆ เพื่อนำซิลิโคนออก ซึ่งระยะเวลาของทุก ๆ ขั้นตอนจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 นาที
- คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัดถอดนำซิลิโคนออก
ทั้งนี้ อาจมีบางเคสที่มีอาการข้างเคียงจากยาชา เช่น ปวด หรือ มึนศีรษะ ดังนั้น ควรมีญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมาด้วยเพื่อพากลับบ้าน รวมถึงอาการข้างเคียงอื่น ๆ โดยหลัก ๆ จะเป็นอาการบวมหลังผ่าตัดซึ่งจะมีภาวะรุนแรง สามารถหายได้ไม่จะเป็นต้องพักฟื้นที่สถานให้บริการ
ถอดซิลิโคนออกต้องเตรียมตัวอย่างไร มีข้อควรรู้อะไรบ้าง?
แม้จะเป็นเพียงการผ่าตัดนำซิลิโคนแท่งเก่าออก แต่ก็ทำให้เลือดออกง่ายเช่นกัน ดังนั้น ข้อควรรู้ในการ เตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด คือ คนไข้ต้องงดยากลุ่มแอสไพริน งดวิตามินและอาหารเสริมต่าง ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ข้อควรรู้อื่น ๆ ก็จะเหมือนกับการเตรียมตัวเข้ารับการศัลยกรรมทั่วไป หากมีข้อควรแจ้งที่จำเป็นต้องให้แพทย์ทราบ ก็ควรแจ้งทันทีเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ด้วย
อาการ หลังถอด ซิ ลิ โคน จมูกที่อาจะเกิดขึ้นได้
สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการถอดซิลิโคนออกนั้น สามารถเกิดออกมาได้หลายรูปแบบ เช่น…
จมูกยุบ จมูกบุ๋ม
เนื่องจากซิลิโคนเก่าที่เอาออกมีขนาดใหญ่ยืดเนื้อปลายจมูกมากทำให้หลังถอดตัวซิลิโคนออกเกิดช่องว่าง ร่างกายจึงสร้างพังผืดบริเวณช่องว่างนั้นและทำให้เกิดรอยยุบหรือรอยบุ๋มบริเวณจมูกได้
จมูกผิดรูป
จะมีความคล้ายกับลักษณะของกรณีจมูกยุบหรือมีรอยบุ๋ม คือ ในการถอดซิลิโคนแต่ละครั้ง ร่างกายก็จะสร้างพังผืดขึ้นในทุก ๆ ครั้งด้วย ดังนั้น จึงทำให้โซิโคนเกิดการเอียง เบี้ยว และทำให้ทรงจมูกไม่สวยในที่สุด (ซึ่งคนไข้แต่ละคนจะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
เนื้อเยื่อบริเวณจมูกมีความเปลี่ยนแปลง
จากที่บอกไปว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้นมักมีการยึดกับเนื้อเยื่อจริงของจมูกเรา ดังนั้น เมื่อคนไข้นำซิลิโคนออก เนื้อเยื่อย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทั้งนี้จะเปลี่ยนไปมากน้อยก็จะขึ้นอยู่กับรูปทรงและขนาดของซิลิโคนแท่งเก่าที่จะมีความแตกต่างกันออกไปนั่นเอง
จากผลข้างเคียงดังที่กล่าวไป เป็นเพียงส่วนหนึ่งของลักษณะอาการที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้น ในบางเคสอาจไม่มีผลข้างเคียง หรืออาจได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเพราะซิลิโคนแท่งเก่าอาจไม่ได้ทำการดึงหรือรั้งจมูกจนเกินไป อย่างไรก็ตาม หลังผ่าตัดควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ในการดูแลตนเองเบื้องต้นที่ถูกต้องด้วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจตามมานั่นเอง
วิธีดูแลหลังถอดซิลิโคน แบบเบื้องต้นควรดูแลอย่างไร?
คนไข้ควรทำการล้างแผลด้วยนำเกลืออย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อทำการล้างไปเรื่อย ๆ ไหมก็จะหลุดไปเองด้วยในขณะเดียวกัน ทั้งนี้ควรรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้อย่างเคร่งครัด เช่น ยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาแก้อักเสบ เพื่อกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
หลังถอดซิลิโคน เสริมจมูกได้ทันทีหรือไม่ ไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำควรเลือกการเสริมจมูกแบบใดดี?
จากข้อมูลที่ได้ล่าวมาทั้งหมด อีกสิ่งที่ทุก ๆ คนควรทราบ คือ ใช่ว่าผู้ที่มีปัญหาเสริมจมูกจะสามารถทำการเสริมจมูกต่อได้ทันที บางเคสเช่นจมูกอักเสบต้องทำการรักษาการอักเสบนั้นก่อนและทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปีจึงจะทำการเสริมจมูกซี่โครงได้ แต่ในผู้ที่ไม่มีอาการเหล่านี้ สามารถเสริมจมูกใหม่ได้ทันที ดังนั้น สำหรับใครที่แก้และอยากเสริมจมูกทันทีควรทราบกรณีนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่มีปัญหาหลังเสริมจมูกที่อาจเป็นอันตรายได้ เช่น ปลายจมูกบาง มีอาการตึงที่จมูก หรือซิลิโคนจมูกทะลุ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนทำให้การรักษาทำได้ยากขึ้น หรือเกิดอันตรายได้
และสำหรับกรณีของผู้ที่สามารถเสริมได้ทันที หากถามว่า หลังถอดซิลิโคนควรเลือกเทคนิคไหนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากซิลิโคนซ้ำ ทาง NSC Clinic ขอแนะนำ “การเสริมจมูกกระดูกซี่โครง” หรือบางท่านอาจรู้จักในเทคนิคของ “การเสริมจมูกไร้ซิลิโคน” ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์ในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำจากการเสริมจมูกซิลิโคนอย่างแน่นอน
“เสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง” เทคนิคตอบโจทย์เสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับการเสริมจมูกด้วยซี่โครงตัวเองนั้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเทคนิคนี้จึงได้รับความนิยม ทั้ง ๆ ที่การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนก็สามารถตอบโจทย์ผู้ที่อยากเสริมจมูกได้เช่นกัน แต่จากข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวมา ทุก ๆ คนคงเห็นแล้วว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนตามมาด้วยความเสี่ยงและปัญหาหลังหารเสริมได้มากมายจนหลากคนเลือกนำซิลิโคนออก ดังนั้น การเสริมจมูกด้วยซี่โครงตัวเองแบบไร้ซิลิโคนจึงเป็นเทคนิคที่คนไข้ถอดซิลิโคนทุกคนควรรู้จัก
เสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง คือ…
เสริมจมูกซี่โครงอ่อน คือหนึ่งในเทคนิคของ “การเสริมจมูกแบบโอเพ่น” (Open Rhinoplasty) หรือการเสริมจมูกแบบเปิด ซึ่ง “เปิด” ในที่นี้หมายถึงการเปิดโครงสร้างจมูกทั้งหมดเพื่อให้แพทย์ทำการแก้ไขหรือปรับโครงสร้างจมูกนั้น ๆ ได้ทั้งหมด โดยไม่ว่าคุณจะมีปัญหาปลายจมูกใหญ่, สันจมูกคด, จมูกงุ้ม, ฮัมพ์จมูกใหญ่ หรือต้องการจะแก้จมูกจากการเสริมแบบปิดที่อาจจะยังไม่ถูกใจ การเสริมจมูกด้วยเทคนิคเปิดนี้สามารถช่วยได้ค่ะ
ทั้งนี้ จุดโดดเด่นอีกเรื่องหนึ่งคือเป็น “การเสริมจมูกโดยไร้ซิลิโคน” โดยมีหลักการสำคัญคือการ “ยืดผนังกั้นจมูก” เพื่อให้ผนังกั้นจมูกยาวขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงปัญหาปลายทะลุลงไปได้นั่นเอง
กระดูกซี่โครงส่วนไหนที่เอามาใช้เสริมจมูก
จากที่ทุกคนทราบไปแล้วว่าจุดโดดเด่นของการเสริมจมูกด้วยเทคนิคนี้นั้นคือการเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน ดังนั้น วัสดุที่นำมาใช้แทนซิลิโคนจมูกจึงเป็นกระดูกจากร่างกายคนไข้เอง ประกอบด้วยกระดูก 2 ชนิดนี้
กระดูกอ่อนหลังหู
“กระดูกอ่อนหลังหู” นั้นมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก และเหมาะกับการนำมาใช้เสริมปลาย ซึ่งการยืดผนังกั้นจมูกนี่เองที่แพทย์ต้องทำการตัดกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกด้านหลังเพื่อมาเย็บกับผนังกั้นจมูกด้านหน้าเพื่อเสริมให้ปลายสวยมากขึ้น
กระดูกซี่โครงตัวเอง
สำหรับข้อแตกต่างระหว่างเทคนิคนี้ กับ เทคนิคใช้กระดูกอ่อนหลังหู ก็คือ เทคนิคนี้จะเป็นการใช้ “กระดูกอ่อนซี่โครงตัวเอง” ในการยืดผนังกั้นจมูก ซึ่งกระดูกส่วนนี้มีคุณสมบัติที่มีความยาวและมีความแข็งแรงมากที่สุดในร่างกาย ดังนั้น จึงเป็นกระดูกอีกส่วนที่เหมาะนำมาใช้ทดแทนวัสดุแปลกปลอมอื่น ๆ ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่กระดูกซี่โครงที่แพทย์มักนำมาใช้จะอยู่บริเวณใต้ราวนมซึ่งจะเปิดแผลซ่อนอยู่ใต้ช่วงหน้าอก ทำให้โอกาสเกิดแผลเป็นน้อยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกนำกระดูกแต่ละชนิดมาใช้ จะขึ้นอยู่กับการเลือกของคนไข้และการพิจารณาจากแพทย์ร่วมกันด้วย เพื่อที่จะทำการเลือกชนิดของกระดูกให้เหมาะกับคนไข้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีความปลอดภัยในระยะยาวอย่างแน่นอนเนื่องจากเป็นกระดูกและเนื้อเยื่อจากร่างกายของตนเอง
เสริมจมูกซี่โครงแก้ไขปัญหาหลังการเสริมซิลิโคนจมูกได้อย่างไร?
โดยปกติแล้วการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้น สามารถเกิดผลข้างเคียงได้ในทุก ๆ บริเวณของจมูก แต่ที่พบปัญหามากที่สุดจะเป็นส่วนปลาย ซึ่งปัญหาดังกล่าวประกอบด้วย…
- ซิลิโคนอาจเกิดการเคลื่อนที่ อาจมีการเอียงเมื่อเจอแรงกด
- อาจเกิดการเห็นขาของซิลิโคนบริเวณกลางจมูกได้ ซึ่งจะเป็นก้อนนูน ๆ แข็ง ๆ ขึ้นมา ซึ่งในบางเคสก็จะเห็นได้ชัดเจน
- หนังบริเวณปลายจมูกจะบางมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจเกิดการทะลุในที่สุด โดยจะเห็นซิลิโคนที่ปลายจมูกเป็นสีขาวหรือสีเหลืองได้
- อาจเกิดแผลเป็นหลังการทะลุหรือการแก้จมูกหลังนำซิลิโคนออก ซึ่งแผลส่วนนี้จะยากในการแก้ไข
- จมูกมีการเปลี่ยนแปลงหากเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้เสริมจมูกหรือหลังผ่าตัดใหม่ ๆ เช่น อาจจะสั้นลง หรือจมูกเชิดขึ้น เป็นต้น
ซึ่งการเสริมจมูกซิลิโคนจะสามารถป้องกันปัญหาจากซิลิโคนต่าง ๆ ดังกล่าวได้ค่อนข้างดี เนื่องจากที่บอกไปว่า Point สำคัญของการเสริมจมูกชนิดนี้มีหลักการสำคัญคือการ “ยืดผนังกั้นจมูก” เพื่อให้ผนังกั้นจมูกยาวขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงปัญหาปลายทะลุลงไปได้นั่นเองค่ะ
เสริมจมูกซี่โครงที่ไหนดี แก้จมูกซี่โครงและเสริมจมูกโอเพ่น ที่ NSC Clinic มีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง?
เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนกำลังชั่งใจ จากที่ได้กล่าวไปว่าแพทย์แต่ละที่จะมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณหมอกิ๊ฟของเราก็มีเทคนิคเฉพาะทางของคุณหมอที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจให้กับทุก ๆ เคสของคุณหมอมาแล้วมากมายเช่นเดียวกัน ซึ่งการเสริมจมูกโอเพ่นของคุณหมอกิ๊ฟ ก็ประกอบด้วย 2 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้…
เทคนิคโอเพ่นรีคอน ลูน่า ริบ กราฟ หรือ Open reconstruction with lunar rib graft (กระดูกซี่โครง)
เป็นเทคนิคโดยของการยืดผนังกั้นจมูก ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างปลายจมูกให้ยาวขึ้นโดยไร้ซิลิโคน คุณหมอจะใช้กระดูกอ่อนจากร่างกายตนเอง เช่น กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก กระดูกอ่อนซี่โครง นำมาต่อกับกระดูกผนังกั้นจมูกส่วนหน้า ชิ้นส่วนเหล่านี้เปรียบเหมือน “เสาค้ำ” ที่แข็งแรง ช่วยเสริมให้ปลายจมูกโด่งพุ่งขึ้น พร้อมกับตกแต่งไขมันปลายจมูก ในไขมันส่วนเกินจะตัดออกไป ส่วนที่ขาดจะเติมไขมันของตนเอง จากไขมันหลังหู ช่วยให้ปลายดูเล็กลง เรียวเล็ก
โดยการปลูกถ่ายกระดูกอ่อนจากหลังหู เทคนิคเฉพาะของคุณหมอกิ๊ฟ “lunar graft” โดยนำมาคลุมในส่วนปลายจมูกเปรียบเสมือน “หลังคา” ช่วยลดโอกาสการทะลุของจมูก และทำให้ปลายจมูกมน ละมุน ไม่พูดแหลมจนเกินไป โดยเทคนิคพิเศษของคุณหมอกิ๊ฟคือ การนำกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเองมาตกแต่งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เรียกว่าเทคนิค lunar rib graft โดย Rib ในที่นี้ แปลว่า ซี่โครง นั่นเองค่ะ ซึ่งแม้จะเป็กระดูกซี่โครง แต่รับรองว่าหากเข้ารับการผ่าตัดกับ NSC Clinic ของเราแล้ว ผลลัพธ์จะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ปลายจมูกโด่งสวย ดูธรรมชาติ และยังคงความหวานละมุนตามแบบฉบับ ทรงจมูกลูน่า ของคุณหมอกิ๊ฟอย่างแน่นอนค่ะ
เทคนิคโอเพ่นรีคอน ลูน่า กราฟ หรือ Open Reconstruction With Lunar Graft (กระดูกอ่อนหลังหู)
เทคนิคพิเศษของคุณหมอกิ๊ฟ คือ การใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาตกแต่งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว (lunar graft) แล้วนำมาวางไว้ที่ปลายจมูกทำให้ปลายจมูกเกิดความโค้งมน ละมุนเป็นธรรมชาติ ซึ่งคุณหมอกิ๊ฟคิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าปัญหาของคนไทยในการทำจมูกให้ส่วนใหญ่คือปลายจมูกโด่งพุ่งแหลม จนเกินไปขาดความเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ
และสำหรับในส่วนของบริเวณช่วงสันจมูก หากเคสไหนที่มีสันจมูกเตี้ยอาจจะใส่วัสดุร่วมด้วยเพื่อทำให้จมูกมีมิติมากขึ้น หรือถ้าเคสไหนที่มีสันจมูกสูง ฮัมพ์โก่ง อาจจะต้องทำการตอกฐาน ตะไบฮัมพ์ เพื่อปรับโครงสร้างจมูกและอาจจะใช้เทคนิคเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองล้วน 100% โดยที่ไม่ต้องใส่วัสดุเลยได้เช่นกัน
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามหรือเดินทางมาที่ NSC Clinic ได้เสมอนะคะ เพราะ
NSC Clinic เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรที่ให้บริการด้านศัลยกรรมหลากหลายประเภท ทั้งนี้เรายังมีทีมแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางและมีทีมแพทย์มากประสบการณ์คอยให้การดูแลทุกท่านแบบเคสต่อเคส และคอยคอยให้คำปรึกษาแนะนำได้ตรงตามความต้องการเพื่อให้ทุกท่านได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาจนรับการรักษาออกไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รู้ก่อนศัลย์! เสริมจมูกโอเพ่น ทำไมต้องดมยาสลบ ?