เสริมจมูก open กับ Close ต่างกันยังไง เลือกทำแบบไหนดี ?
ในยุคที่ศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เราจะไม่พูดถึงศัลยกรรมเสริมจมูกก็คงไม่ได้ เพราะเป็นศัลยกรรมยอดฮิต ที่หลายคนนิยมทำตั้งแต่เมื่อก่อน เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ให้ดูสวย ดูหล่อ และยังทำให้รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
โดยการเสริมจมูกแบ่งออกเป็น 2 เทคนิคหลัก ๆ คือ การเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น (Open rhinoplasty) และ การเสริมจมูกเทคนิคปิด (Close rhinoplasty) แล้วสองเทคนิคนี้แตกต่างกันอย่างไร ? สำหรับหลายคนที่เจอปัญหา ไม่พอใจทรงจมูก กำลังหาข้อมูลทำจมูก หรือ กำลังดูว่าเทคนิคแบบไหนจะเหมาะกับใบหน้าเรามากที่สุด บทความนี้มีคำตอบ
โดยการเสริมจมูกแบ่งออกเป็น 2 เทคนิคหลัก ๆ คือ การเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น (Open rhinoplasty) และ การเสริมจมูกเทคนิคปิด (Close rhinoplasty) แล้วสองเทคนิคนี้แตกต่างกันอย่างไร ? สำหรับหลายคนที่เจอปัญหา ไม่พอใจทรงจมูก กำลังหาข้อมูลทำจมูก หรือ กำลังดูว่าเทคนิคแบบไหนจะเหมาะกับใบหน้าเรามากที่สุด บทความนี้มีคำตอบ
เสริมจมูกโอเพ่นแบบปรับโครงสร้างจมูก (Open Reconstruction)
การเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น (Open Reconstruction) เป็นการเสริมจมูกด้วยวิธีปรับโครงสร้างของจมูก โดยการเปิดแผลตรงกลางระหว่างรูจมูกสองข้าง ทำให้สามารถเข้าไปแก้ไขโครงสร้างของจมูกใหม่ได้เกือบ100% เทคนิคนี้จะทำร่วมกับการยืดผนังกั้นจมูก และใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาตกแต่งปลายจมูกทำให้ ปลายจมูกไร้ซิลิโคน หรือเรียกว่า ปลายจมูกไร้สิ่งแปลกปลอม 100% นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น การแก้ผนังกั้นจมูกคด การตอกปรับฐานจมูก การตกแต่งกระดูกอ่อนปลายจมูก การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ปลายจมูก เพื่อความสวยงามและป้องกันการทะลุอีกด้วย
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบ Open reconstruction
1. เป็นเทคนิคที่สามารถมองเห็นด้านในจมูกได้ชัดเจน แพทย์สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น ปัญหากระดูกฮัมพ์ใหญ่สูง ฐานกระดูกกว้าง ผนังกั้นกระดูกคด หรือปัญหาที่เกิดจากอุบัติเหตุ2. ตัดแต่งปลายจมูก ที่ดูใหญ่ ดูหนา ปลายชมพู่ ให้เรียวเล็กลง
3. ลดโอกาสการทะลุหลังเสริมจมูก มากกว่าเทคนิคปกติ เพราะปลายจมูกเป็น กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อตัวเองทั้งหมดไม่มีสิ่งแปลกปลอม ไม่มีซิลิโคน
เสริมจมูกเทคนิคปิด (Closed Rhinoplasty)
การเสริมจมูกเทคนิคปิด เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกขนาดเล็ก โดยจะเปิดแผลผ่าตัดด้านในจมูกเพียงข้างเดียว ให้มีช่องขนาดพอใส่ซิลิโคนเข้าไปได้ จะเป็นการปรับรูปทรงของจมูกให้ดูโด่งขึ้น โดยอ้างอิงกับโครงสร้างจมูกเดิมของตนเอง ไม่สามารถแก้ไขโครงสร้างได้เหมือนการทำจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นปรับโครงสร้างจมูก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาด้านโครงสร้างจมูกมากและชอบทรงจมูกธรรมชาติที่มีความเข้ากับใบหน้า
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
1. บวมช้ำน้อย พักฟื้นไว สามารถใช้ชีวิตปกติได้ง่าย
2. จมูกเข้าที่เร็ว สามารถเห็นทรงได้หลังทำ
3. ค่าใช้จ่ายไม่สูง เมื่อเทียบกับเทคนิคปรับโครงสร้าง
เลือกเสริมจมูกเทคนิคไหนดี ?
ถ้าเราเป็นผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก ไม่ว่าจะผนังกั้นจมูกคด ปลายสั้น ปลายแหงน กระดูกฮัมพ์ใหญ่ แกนเอียง เนื้อน้อย เทคนิคที่แก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ที่สุดจะเป็น เทคนิคเสริมจมูกโอเพ่นปรับโครงสร้าง
ส่วนเทคนิคปิดเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาด้านโครงสร้างมาก อาจจะมีปัญหาเรื่องสันจมูกไม่โด่งหน้าขาดมิติ ต้องการปรับแต่งทรงจมูกให้ดูโด่งและมีมิติมากขึ้น
ส่วนเทคนิคปิดเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาด้านโครงสร้างมาก อาจจะมีปัญหาเรื่องสันจมูกไม่โด่งหน้าขาดมิติ ต้องการปรับแต่งทรงจมูกให้ดูโด่งและมีมิติมากขึ้น
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรเสริมจมูกด้วยเทคนิคไหนดี?
คุณหมอจะวิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างจมูก ว่าจมูกของเราเหมาะสมกับการเสริมเทคนิคอะไร ถ้าเกิดเป็นคนไม่มีปัญหาด้านโครงสร้าง เช่น เป็นคนเนื้อจมูกเยอะ จมูกไม่สั้นเกินไป ปัญหาโครงสร้างจมูกไม่ซับซ้อน การเสริมจมูกด้วย เทคนิค Closed ก็สามารถทำแล้วจมูกออกมาดูโด่งสวยได้เลย
แต่ถ้าเจอปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะ เช่น ผนังกั้นจมูกคด ฐานจมูกกว้าง ฮัมพ์จมูกสูงใหญ่ แกนเอียง ปลายจมูกชมพู่ เนื้อน้อยจมูกสั้นแหงน คุณหมอจะแนะนำให้ทำ เทคนิค Open ซึ่งแก้ไขปัญหาโครงสร้าง และช่วยให้ทรงจมูกโด่งพุ่ง ปลายเรียวได้มากกว่าเทคนิค Closed
แต่ถ้าเจอปัญหาโครงสร้างจมูกเยอะ เช่น ผนังกั้นจมูกคด ฐานจมูกกว้าง ฮัมพ์จมูกสูงใหญ่ แกนเอียง ปลายจมูกชมพู่ เนื้อน้อยจมูกสั้นแหงน คุณหมอจะแนะนำให้ทำ เทคนิค Open ซึ่งแก้ไขปัญหาโครงสร้าง และช่วยให้ทรงจมูกโด่งพุ่ง ปลายเรียวได้มากกว่าเทคนิค Closed