“ดึงหน้า” อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ และต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็วทันใจ เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อเริ่มอายุมากขึ้น ปัญหาผิวพรรณก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะปัญหาผิวหย่อนคล้อยต่าง ๆ ตามที่กล่าวไป เช่น ปัญหาคิ้วตก หนังตาด้านข้างหนาขึ้น แก้มห้อยย้อย มุมปากตก ร่องแก้มลึก เป็นต้น ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนสูญเสียความมั่นใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ศัลยกรรมชนิดนี้จะเป็นทางเลือกที่ผู้ประสบปัญหานึกถึง
ดึงหน้า คืออะไร เหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
จากที่ได้บอกไปว่าปัญหาความหย่อนคล้อยเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่และแน่นอนว่าความหย่อนคล้อยเป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่ทุก ๆ คนต้องการแก้ไขให้ไวมากที่สุด ศัลยกรรมการดึงหน้า จึงเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ที่สุดเช่นกัน
การทำศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) คืออะไร?
การศัลยกรรมดึงหน้า หรือ Face Lift เป็นการผ่าตัดเพื่อทำการปรับแต่งผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นเพื่อให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ดังเดิม โดยแพทย์จะทำการตัดแต่งชั้นผิวหนังเฉพาะชั้นที่มีไขมันส่วนเกินเพื่อทำให้กล้ามเนื้อกระชับมากขึ้น ซึ่งเทคนิคที่นำมาใช้กับผู้เข้ารับบริการแต่ละ
คนก็จะแตกต่างกันออกไปตามการพิจารณาของแพทย์และแผนการผ่าตัดที่เหมาะกับแต่ละคนด้วย
ดึงหน้าเหมาะกับใครบ้าง?
หลาย ๆ คนอาจคิดว่าศัลยกรรมเพื่อความกระชับชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่มีอายุเลข 4 ขึ้นไปเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วการดึงใบหน้าสามารถแก้ไขให้กับผู้ประสบปัญหาหลายอย่างด้วยกัน เช่น…
- มีผิวหนังบริเวณ ใบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยมีผิวหนังส่วนเกินบริเวณเปลือกตา
- มีปัญหาแก้มห้อย แก้มไม่เท่ากัน
- ผู้มีปัญหาเรื่องตีนกา, ร่องแก้ม, รอยย่น บนผิวหน้า, หางตาไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตาม ศัลยกรรมประเภทนี้ต้องเข้ารับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อทำการวางแผนการผ่าตัดเพื่อให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด
ดึงส่วนไหน แก้ปัญหาอะไร?
สำหรับการดึงใบหน้านั้นสามารถดึงได้หลายจุด หลายบริเวณด้วยกัน ซึ่งแต่ละจุดและบริเวณนั้น ๆ ก็จะแก้ปัญหาผิวหนังได้แตกต่างกันออกไป เช่น…
ดึงหน้าผาก
เนื่องจากบริเวณหน้าผากเป็นช่วงที่ติดกับคิ้ว ดังนั้นการดึงหน้าฝากจึงมีส่วนช่วยลดรอยย่นบริเวณหัวคิ้ว รวมถึงรอยย่อนบริเวณหน้าผากจากการเลิกคิ้ว
ดึงหางตาและใบหน้าส่วนบน
สำหรับการดึงใบหน้าบริเวณนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก ทำให้ใบหน้าดูง่วงอยู่ตลอดเวลากลับมาสดใสขึ้น รอยตีนกาลดลง รวมถึงบริเวณโหนกแก้มที่มีความหย่อนคล้อยก็ดูกระชับขึ้นเช่นเดียวกัน
ดึงหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง
ใบหน้าส่วนนี้จะเป็นบริเวณแก้มและร่องน้ำหมาก ซึ่งการดึงหน้าส่วนนี้จะช่วยให้ริ้วรอยและความหย่อยคล้อยเฉพาะส่วนดีขึ้น ทั้งนี้การดึงหน้าส่วนกลางและล่างจะช่วยให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาผิวหนังและปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลากหลาย
สารพัดปัญหาที่การดึงใบหน้าสามารถช่วยได้อีกมากมาย
ข้อควรระวังจากการดึงหน้า สิ่งสำคัญที่ก่อนศัลย์ต้องรู้คำตอบ
เป็นเรื่องปกติในการผ่าตัดที่จะต้องมีข้อควรระวังที่ผู้สนใจต้องทราบ แม้จะเป็นการดึงหน้าแบบผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดก็ตาม แต่การทราบถึงข้อควรระวังจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องเสมอ
ซึ่งข้อควรระวังที่ผู้สนใจเข้ารับบริการควรทราบ มีดังนี้…
- ผลลัพธ์อาจไม่ได้ตรงตามต้องการเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามแพทย์จะทำการวางแผนการศัลยกรรมที่รัดกุมที่สุดเพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้เข้ารับบริการอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- รอยแผล ในกรณีที่ทำการผ่าตัดอาจมีรอยแผลเป็นเล็กน้อย แต่แผลจะถูกซ่อนในตำแหน่งที่เหมาะสม
- ความเสี่ยงของการยืดดึงรั้งหรือตัดขาดของเส้นประสาทใบหน้าที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยมาก เพียง 1-3% เท่านั้น โดยผลจากความเสี่ยงนี้อาจทำให้กล้ามเนื้อใช้งานไม่ได้ แต่จะกลับมาเป็นปกติภายใน 3- 6 เดือน
จากข้อควรระวังทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับผู้สนใจเข้ารับการศัลยกรรมดึงใบหน้าเพื่อความกระชับ จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์โดยตรงและละเอียดมากขึ้นด้วย
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมดึงหน้า
แม้จะดูเหมือนเป็นหัตถการที่ไม่ได้มีระดับใหญ่หรือซับซ้อนอะไรมากนัก แต่การดูแลตนเองหลังเข้ารับบริการดึงหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ ดังนี้…
- หลังผ่าตัดเสร็จให้ประคบเย็นอย่างน้อย 48 – 72 ชั่วโมง ระมัดระวังอย่าให้โดนแผลโดยตรง เพื่อลดอาการบวมช้ำ หลังจากนั้นประคบต่อเนื่องไปอีก 3 วัน และค่อยเปลี่ยนเป็นประคบเย็นในช่วงตอนกลางคืนประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ควรทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือซับเบา ๆ บริเวณแผล
- ใส่ที่ผ้ารัดหน้าหลังจากทำศัลยกรรมอย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อช่วยพยุงแผลจากภายนอกอีกทาง
- งดกิจกรรม การออกกำลังกายทุกชนิด ที่จะทำให้กระทบกระเทือนแผล
- งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการด้วย สำหรับใครที่สนใจ จะมีแพทย์คอยแนะนำการเตรียมความพร้อมและการดูแลตนเองอย่างละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน ซึ่งสามารถวางใจได้ว่าทุก ๆ คนจะปลอดภัยและได้รับผลลัพธ์ตามที่คาดหวังอย่างแน่นอน
“ดึงขมับ” ด้วยเทคนิค Catty eyes จาก NSC Clinic ดียังไง มาดูกัน!!
สำหรับการ ดึงขมับ หรือ Temporal Lift นั้น คือ วิธีรักษาความงามเพื่อยกกระชับผิวหน้าส่วนบนบริเวณหน้าผาก หางคิ้ว ระหว่างคิ้ว และผิวรอบดวงตาที่มีปัญหาหย่อนคล้อย มีรอยพับ หรือรอยเหี่ยวย่นอย่างชัดเจนให้ดีขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะเลือกแนวทางนี้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เห็นผลชัดเจนและตรงจุดมากขึ้น
ซึ่งทาง NSC Clinic ของเราก็มีเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า Catty eyes เพื่อทำการยกหางคิ้วและตาให้มีความกระชับและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์นั่นเองค่ะ ซึ่งข้อดีของเทคนิคนี้ก็คือ ทีมแพทย์นั้นจะทำการซ่อนแผลให้อยู่ตรงบริเวณไรผม แผลมองไม่เห็น ไม่เกิดผมร่วง เป็นการยกขึ้นตั้งแต่หางคิ้ว หางตา ปกติการยกคิ้วจะยกแค่บริเวรคิ้วแต่แคตตี้อายจะเป็นการยกช่วงหางตาและยกช่วงบริเวณใต้ตาด้านล่างขึ้นด้วยถือว่าเป็นการดึงในส่วนของขมับด้านข้าง เป็นการศัลยกรรมให้หน้าดูแบ๊วขึ้น หน้าดูสดใส ดูเด็กลง บางคนชอบชั้นตาเดิมตาสวยอยู่แล้วแค่ดูตกดูเศร้าดูแก่ ทำแล้วดูเด็กสวยขึ้นได้โดยที่ชั้นตายังเหมือนเดิมอยู่และดูธรรมชาติมากยิ่งขึ้นค่ะ
ดึงหน้า ที่ไหน ดี อยากมีใบหน้าอ่อนเยาว์ กระชับขึ้น ควรเข้ารับบริการจากที่ไหน?
สำหรับใครที่กำลังลังเล ไม่รู้ว่าจะเข้ารับการบริการที่ไหนดี NSC Clinic ของเราขอต้อนรับ
- ทีมแพทย์ ทางคลินิกของเราให้บริการด้านความสวยความงามอย่างครบวงจร ฉะนั้นเราจึงมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างหลากหลายและมีความเฉพาะทาง ดังนั้น ทุกคนจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้เข้ารับการบริการจากแพทย์ผู้ชำนาญอย่างแน่นอน
- คลินิกได้มาตรฐาน เพราะคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 NSC Clinic เป็นคลินิกที่สามารถตรวจสอบได้ ผ่านการรับรองถูกต้อง ห้องผ่าตัดได้มาตรฐานโรงพยาบาล มีวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง คอยดูแลทุกเคส และ อุปกรณ์เครื่องมือได้มาตรฐาน มีการอบฆ่าเชื้อทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ท้ายที่สุด NSC Clinic ของเรานั้นมีความใส่ใจทั้งก่อนและหลังการรับบริการ เราจะมีทีมเจ้าหน้าที่ผู้ให้การดูแลหลังผ่าตัดแสตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเราเข้าใจถึงความกังวลและความไม่สบายใจที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด เราจึงมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ให้กำลังใจและตอบคำถาม พร้อมทั้งยังแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดอย่างครบวงจรเพื่อให้คนไข้ของเราทุกเคสพึงพอใจมากที่สุด